ใครกำลังมองหาร้านอาหารที่ “เขาใหญ่” ไว้สำหรับเอนจอยมื้อพิเศษกับเพื่อนร่วมทริป แนะนำให้ตั้งพิกัดริม ถ.ธนะรัชต์ แล้วมุ่งหน้ามาที่ “The Fable Feast Meat & More” รับรองมื้อนี้ประทับใจ

ที่นี่พิเศษตั้งแต่การได้นั่งรับประทาน อยู่ใน “อาคาร” ที่แฝงงานสถาปัตยกรรมพื้นถิ่นไว้อย่างแยบยล หยิบรูปลักษณ์ของเรือนไทย มาลดทอน – ถอดรูป ซึ่งเป็นแนวคิดเดียวกันกับที่ใช้ออกแบบปราสาททรงแปลกตาของ “โฮเทล ลาบาริส”

พร้อมเสิร์ฟหลากหลายความอร่อยในสไตล์ Grill Bar and Thai Cuisine คัดสรรเนื้อชั้นดีจากทั่วโลก เพื่อรังสรรค์สเต็กที่ไม่เหมือนใคร รวมไปถึงจานทวิสต์และไทยฟิวชั่น ในคอนเซ็ปต์ Garden to Table ที่เลือกใช้แต่วัตถุดิบออร์แกนิค พืชผักสมุนไพรท้องถิ่น Edible Flower รวมไปถึงไข่ไก่อารมณ์ดี ฯลฯ

มาแล้วไม่รอช้า แนะนำจานแรก ซุปครีมข้าวโพดเนื้อปู (Cream Corn Soup With Crab Meat) หวานละมุน หอมกลิ่นซุปข้าวโพด ได้รสของเนื้อปูกลมกล่อมลงตัว ซึ่งก่อนเสิร์ฟจะมีขนมปังโฟกาเซีย เมนูขนมปังโฮมเมดสไตล์อิตาเลียน ที่เป็นต้นกำเนิดของพิซซ่าให้ด้วย

เสิร์ฟต่อกันแบบไม่มีโฆษณาคั่น กับเมนูสปาเก็ตตีซอสกุ้งแม่น้ำไข่เค็มลาวา (Spaghetti Tom Yum Prawn With Caramel Salted Egg) ผสมผสานเมนูเส้นของประเทศอิตาลี ให้มีกลิ่นอายความเป็นไทยด้วยการใส่ใบมะกรูด ผักชีมีรสชาติเข้มข้นคล้ายต้มยำกุ้งน้ำข้น อาหารเลื่องชื่อของประเทศไทย

สำหรับจานต่อไปนอกจากละมุนลิ้น อร่อยเกินร้อย ยังแสดงถึงความใส่ใจในสุขภาพของผู้รับประทานได้อย่างดี กับเมนู สลัดอกเป็ดรมควัน ฟัวย์กราส์และไข่เป็ด (What The Duck Salad) ด้วยเลือกใช้ฟัวย์กราส์พรีเมี่ยม จากประเทศฝรั่งเศส ‘Rougie Foie Gras’ แบรนด์เก่าแก่ชื่อดังที่เชฟทั่วโลกไว้วางใจ เป็ดสายพันธุ์ Moulard ทุกตัวได้รับการดูแลอย่างพิถีพิถัน เลี้ยงโดยวิธีธรรมชาติ ได้รับการดูแลจากนักโภชนาการ และทานแต่เมล็ดข้าวโพดที่ปลูกในท้องถิ่นเท่านั้น

ตบท้ายอย่างหอม หวาน นุ่ม อิ่มพอดี ๆ กับเมนู ลาบาริส ซิกเนเจอร์ แพลตเตอร์ (Labaris Signature Platter) ซึ่งประกอบไปด้วย เนื้อหอยเชลล์อเมริกา (US Scallop), กุ้งลายเสือ (Tiger Prawn) ซี่โครงแกะย่าง (Lamp Rack) และเนื้อเทนเดอร์ลอยน์ (Beef Tenderloin) เสิร์ฟพร้อมซอสรสเด็ด อาทิ ซอสซิกเนเจอร์ เขาใหญ่ ชิมิชูริ, ซอสน้ำจิ้มแจ่วไทย เป็นต้น