Hopping in Khao Yai
ในวันที่เหนื่อยล้า ชวนกลับบ้านนอกกันดีกว่า
______________

รีวิวโรงแรมฉบับสมบูรณ์
บ้านนอกคอกนา เขาใหญ่
( Baan Nok Kok Na Khao Yai )

01
INTRO

เมื่อใจเรียกร้องอยากหลบความวุ่นวายจากเมืองใหญ่ การได้แอบมาใช้ชีวิตนิ่ง ๆ เรียบง่ายท่ามกลางธรรมชาติบริสุทธิ์ใน ‘ฟาร์มสเตย์’ ที่อบอวลไปด้วยบรรยากาศแสนดีสักคืนสองคืน เป็นอะไรที่ชุ่มชื่นใจไม่น้อยทีเดียว

ครั้งนี้เราออกมาจากโซนท่องเที่ยวหลักของเขาใหญ่ ที่คราคร่ำไปด้วยนักท่องเที่ยวกันสักนิด ใครอินกับการท่องเที่ยวเชิงวิถีชนบทแบบคิ้วท์ ๆ ชอบไอดินกลิ่นรวงข้าว นอนดูดาว เคล้าเสียงจักจั่น ขอชวนทุกคนมาเติมเต็มหัวใจใส่ฟีลลิ่งความเป็นเด็กบ้านนอกแบบมีสไตล์กันที่นี่ บ้านนอกคอกนา เขาใหญ่ รับรองได้ความสุขและประสบการณ์ดี ๆ กลับไปเป็นของฝากแน่นอน

02
WELCOME

โลเคชั่นที่นี่ต้องบอกว่า ‘บ้านนอกสมชื่อจริง ๆ’ ด้วยความที่อยู่กลางป่าเขาและทุ่งนา ทางเข้าอาจจะลึกสักนิดแต่ก็มีวิวสวย ๆ ให้ชมระหว่างทางมาเรื่อย ๆ เพลิน ๆ … เรามาถึงที่นี่กันก็ช่วงบ่าย จอดรถเสร็จสรรพพร้อมรับกุญแจห้องพักกันที่ล็อบบี้ด้านหน้า ก่อนเดินเข้าสู่ดินแดน ‘บ้านนอกคอกนา’ โดยมีสะพานดาวเป็นจุดเชื่อมและต้อนรับเราสู่ภายใน

บ้านนอกคอกนาแห่งนี้ ชวนเราเดินทาง ‘กลับบ้าน’ มาสัมผัสความสุขแสนละมุนละไม บนดินแดนเล็ก ๆ ราว 11 ไร่ ริมคลองธรรมชาติ ซึ่งครอบครัวผู้เป็นเจ้าของใส่หัวใจชุบชีวีที่นี่ให้น่าอยู่น่าพักตามตำรับ ‘ฟาร์มสเตย์วิถีเกษตรพอเพียง’

รายล้อมด้วยท้องทุ่งนาเขียวชอุ่ม แปลงผักผลไม้ปลอดสารพิษนานาชนิด ทุ่งปอเทือง ทุ่งทานตะวัน ไร่ข้าวโพด ฯลฯ ที่หมุนเวียนสลับเปลี่ยนอวดความสวยงามตามฤดูกาล พร้อมให้คุณได้ซึมซับวิถีแบบบ้าน ๆ ที่ไม่ธรรมดา

ทั้งสไตล์การออกแบบทุกแอเรียเห็นแล้วรับรู้ถึงความตั้งใจ มีคาแรคเตอร์โดดเด่นน่าหลงรักทุกอณู ไม่ว่าจะเป็นการดีไซน์โซนต่าง ๆ การเลือกใช้วัสดุ ข้าวของตกแต่ง ฯลฯ ถูกคัดสรรลงตัวกับธรรมชาติอย่างกลมกล่อม

03
CAFE

เข้ามาด้านในโซนแรก จะเป็นส่วนของ ‘คาเฟ่และร้านอาหาร’ และแม้เพิ่งเข้ามา เราก็สัมผัสได้กับความเก๋ของงานดีไซน์ ที่ผสมกับกลิ่นอายของบ้านนอกที่เข้ากันอย่างกลมกล่อม การตกแต่งนั้นเน้นวัสดุจากธรรมชาติเป็นหลัก โดยเฉพาะไม้ไผ่ ชวนให้นึกถึงกลิ่นอายบ้านนาจริง ๆ

มาถึงเหนื่อย ๆ เจอคาเฟ่สวย ๆ ขนาดนี้ก็อดใจไม่ไหวขอสั่ง “กาแฟบ้านนอกคอกนา” เคียงคู่ “เค้กมะพร้าวอัญชัน” 2 เมนูซิกเนอเจอร์ของที่นี่ มาเติมเต็มความสำราญให้ร่างกายกันสักนิด ระหว่างรออาหารและเครื่องดื่ม ด้านในของคาเฟ่มีมุมขายของฝาก มีกระเป๋าใบสวยจากวัสดุธรรมชาติหลากดีไซน์ให้ได้เลือกชอปปิ้งกันกลับบ้านด้วย

หลังจากจัดการกับขนมเรียบร้อย ขอพาเดินชมส่วนคาเฟ่มุมอื่น ๆ กันอีกนิด ในโซนนี้มีโต๊ะอาหารสำหรับลูกค้าค่อนข้างเยอะ มุมดี ๆ หน่อยก็จะตรงริมคลองรับลมเย็น ๆ มีแบ็คกราวด์เป็นอาคารของโซนบ้านพักเป็นฉากประกอบ

04
ROOM

เอาล่ะ ได้เวลาพาเข้าสู่โซนที่พักกัน โดยเราจะต้องใช้สะพานไม้ไผ่ในการข้ามคลองไปยังที่พักของเรา แม้ที่นี่จะมีในส่วนของ ‘คาเฟ่และร้านอาหาร’ ที่ให้บริการนักท่องเที่ยวภายนอกที่แวะเวียนเข้ามา เราก็ไม่ต้องกังวลเรื่องความเป็นส่วนตัวเพราะเค้าแบ่งแยกโซนชัดเจน ทำสะพานไม้ข้ามคลองเล็ก ๆ มีประตูสำหรับผู้เข้าพักเท่านั้นที่อนุญาตให้เข้าโซนนี้ได้

เราชอบ ‘บ้านพัก’ ของที่นี่มาก ♡ เพราะนอกจากจะออกแบบมาเพื่อให้เหมาะสมกับทุกคนทุกวัยแล้ว การดีไซน์แต่ละหลังยังเก๋มีสไตล์แตกต่างกัน เน้นจัดวางองค์ประกอบมู้ดโทนอบอุ่นอยู่สบาย เว้นระยะห่างมอบความเป็นส่วนตัว มีระเบียงนั่งเล่นดื่มด่ำชมวิวสวยเพลินตาของแปลงนาแปลงผักรอบบ้าน และที่สำคัญภายในบ้านพัก เค้ายังจัดเตรียมชุดคอกระเช้า ผ้าถุงอาบน้ำ และบรรดาพร็อพเอาใจสาย Instagrammable ให้หามุมชิค ๆ ถ่ายรูปฟินชัวร์!

ด้านในโซนที่พัก ก็จะมีพื้นที่ส่วนกลางอย่างสนามเด็กเล่น ซุ้มแคมป์ แปลงผัก เรียกว่าเอาใจคนทุกวัยได้ครบถ้วน เป็นเสมือนการดีไซน์ประสบการณ์ที่ครอบครัวสามารถพาเด็ก ๆ มาซ้อมเข้าค่ายคลุกคลีอยู่กับธรรมชาติ สนุกกับสิ่งต่าง ๆ รอบตัวที่เราไม่ค่อยได้สัมผัสกันในเมืองใหญ่

เปิดประตูพาชมบ้านพักไฮไลท์
‘บ้านคักโพด’

เดินมาแป๊บเดียวก็ถึงบ้านหมายเลข 7 ‘บ้านคักโพด’ (ที่นี่ตั้งชื่อบ้านแต่ละหลังเป็นภาษาโคราช คักโพด แปลว่า สุดยอด) บ้านทรงเหลี่ยมสำหรับ 4 คน ภายในด้านล่างมี 1 เตียงใหญ่ ทำบันไดวนเก๋ ๆ ขึ้นชั้นลอยใต้หลังคาเป็นพื้นที่สำหรับเตียงเดี่ยว 2 เตียง (พักได้อีก 2 คน) มีหน้าต่างด้านข้างวิวดีสีเขียวสบายตา

แว่บพามาชมส่วนของห้องน้ำกันบ้าง ห้องน้ำห้องนี้มีขนาดกว้างทีเดียว จุดอาบน้ำจะเป็นฝักบัวแบบโอเพ่นแอร์ท่ามกลางธรรมชาติ “อาบกลางวันได้ชมท้องฟ้า อาบกลางคืนได้ชมแสงดาว” และยังมีการจัดเตรียมพร็อพเป็นเสื้อคอกระเช้าและผ้าถุงอาบน้ำ อีกกิมมิคเก๋ ๆ ของที่นี่ มีเตรียมไว้ให้สาว ๆ ได้เปลี่ยนชุดเป็นสาวบ้านนอก เพิ่มฟิลลิ่งให้อินกันไปอีก

บ้านพักยอดฮิตยอดนิยม
‘บ้านมุมุมิมิ’

นอกจากบ้านพักหลังแรกแล้ว เราจะขอพาไปชมบ้านพักยอดนิยมที่สุดของที่นี่ แนะนำก่อนเลยว่าควรจองกันเนิ่น ๆ ถ้าไม่อยากพลาด นั่นก็คือ ‘บ้านมุมุมิมิ’ บ้านทรงสูงแบบฉบับถูกใจสายมินิมอล ด้านในเป็น 2 ชั้น ชั้นสองจะเป็นส่วนของห้องนอนกับมุมนั่งเล่นเล็ก ๆ น่ารัก ๆ มีระเบียงให้ออกไปนั่งชมวิวทุ่งนาและจิบกาแฟ เช้า ๆ นี่ท่าทางจะฟินน่าดู

ห้องน้ำของห้องนี้จะอยู่ที่ชั้นล่าง ซึ่งก็มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครันเลยหละ และใกล้ ๆ กับบ้านมุมุมิมิ จะเป็นจุดนั่งเล่นถ่ายภาพยอดฮิตอีกจุดของที่นี่ ขอบอกเลยว่าใครที่มาช่วงดอกปอเทืองกำลังบาน ก็จะได้วิวทุ่งดอกไม้สีเหลืองสวยมาก ๆ เลย

นอนรับลมชมวิว
‘บ้านดีกั่ว’

หลังต่อมา ‘บ้านดีกั่ว’ ที่ในภาษาโคราชแปลว่า “ดีกว่า” หลังนี้เหมาะกับการมาพักผ่อนแบบสองคน ขนาดน่ารักพักผ่อนสบาย 25 ตร.ม.

ความพิเศษของห้องนี้ ด้านหลังมีทางขึ้นชั้น 2 เป็นระเบียงให้นั่งชมวิวบ้านนอกวิถีชาวฟาร์มแบบ 180 องศา และมีเปลใต้ร่มไม้สำหรับคนที่ชอบนอนรับลมริมคลองหลังบ้าน

บ้านแฝดหลังใหญ่
‘บ้านจั๊กแหล่ว’

หลังสุดท้ายเราขอพามาชม ‘บ้านจั๊กแหล่ว’ (แปลว่าไม่รู้) บ้านหลังนี้มีขนาดพื้นที่ค่อนข้างใหญ่ เป็นบ้านแฝดคู่ 2 หลังติดกัน เหมาะกับกลุ่มที่มาเป็นครอบครัวมาก ๆ ถ้ามากันหลายคนจองทั้ง 2 หลัง ยังได้ใช้พื้นที่โต๊ะอาหารตรงกลางร่วมกันได้ด้วย แต่เราเลือกจองแค่หลังเดียวก็ได้นะ บ้านนี้พักได้ 4 คน มี 1 ห้องนอนเตียงคิงไซส์ และห้องใต้หลังคา เป็นเตียงเดี่ยว 2 เตียงเหมือนกับ ‘บ้านคักโพด’

โซนของห้องนั่งเล่นจะมีบันได สำหรับขึ้นชั้นบนห้องใต้หลังคา ไฮไลท์อีกจุดของห้องนี้ที่ชอบมาก คืออ่างอาบน้ำที่วิวธรรมชาติแบบนี้ ซึ่งก่อนเข้าเช็คอิน ทางที่พักก็จะเตรียมน้ำในอ่างพร้อมโรยดอกอัญชัญสีม่วงไว้ให้ เปิดมาเจอแบบนี้แล้วประทับใจสุด ๆ

05
DINING

บรรยากาศช่วงเย็นของที่นี่ มาพร้อมกับเสียงเรียกร้องของกระเพาะอาหารว่าหิวแล้ว เราจะข้ามกลับไปฝั่งนู้นกัน เมื่อกลางวันเราได้จองโต๊ะสำหรับมื้อเย็นไว้แล้ว เมื่อถึงเวลาที่นัดหมาย โต๊ะดินเนอร์ที่ประดับไฟเซ็ตพร้อมการจัดวางโต๊ะอาหารที่น่ารัก ๆ พร้อมบริการให้เข้ามาลองลิ้มจานเด็ดปรุงสดใหม่ด้วยพืชผักปลอดสารพิษในฟาร์ม มื้อนี้เราเลยเลือกสั่งเมนูแนะนำของที่นี่

เมนูอาหารที่นี่ยังมีความนัวแซ่บตามสไตล์ชาวโคราช แต่รสชาติต้องบอกเลยว่ากินง่ายถูกปาก ใครที่ชอบส้มตำอยากลองสักจาน ขอแนะนำเป็น ตำข้าวโพดไข่เค็ม รสเปรี้ยวหวานมันนัวข้าวโพดและไข่แดงเค็ม ที่บอกเลยว่าชิมคำแรกแล้วหยุดไม่ได้เลย

ต่อด้วยเมนูซิกเนเจอร์อีกตัว อย่าง ห่อหมก ที่ต้องบอกว่ารสชาติถึงเครื่องเนื้อนุ่มหนึบกำลังดี ไม่มีกลิ่นคาว ที่สำคัญเสิร์ฟมาในถ้วยเล็ก ๆ ให้สามารถแบ่งเพื่อร่วมโต๊ะได้แบบไม่ต้องแย่งความอร่อยกันเลย

มาพักผ่อนในบ้านนอกทั้งที จะขาดเมนูน้ำพริกไปได้ยังไง สั่งมาได้เลย ชุดน้ำพริกกะปิ ที่จะไม่ทำให้ผิดหวังแน่นอน เพราะตัวน้ำพริกเผ็ดเปรี้ยวเค็มลงตัว เนื้อน้ำพริกข้นเหมาะกับการจิ้มผักเครื่องเคียงลงไปจริง ๆ ใครที่ชอบทานน้ำพริกกะปิบอกเลยว่าห้ามพลาดเด็ดขาด

ปิดท้ายด้วยเมนูเบา ๆ อย่าง สลัดปูนิ่ม ที่ผักสดกรอบและปูนิ่มทอดที่ทานเพลิน ๆ ได้ทั้งตัว เมนูนี้ทานง่ายทานได้ทุกคน ใครที่ไม่ถนัดอาหารรสจัดก็สามารถสั่งเมนูนี้ได้เลย

06
REMARK

ใครติดขนมนมเนยแนะนำให้แวะซื้อเข้ามาเลยดีสุด เพราะที่นี่ค่อนข้างไกลจากร้านสะดวกซื้อทั้งหลาย รวมถึงแนะนำให้จองทานมื้อเย็นล่วงหน้า จะได้ดินเนอร์มื้อพิเศษกินอาหารอร่อย ๆ นั่งโต๊ะมุมสวย ๆ ด้วยนะ

ใครอยากที่จะชาร์จพลังให้ตัวเอง อิ่มเอมเติมความสุขแบบใกล้กรุง หาเวลาว่างมาสัมผัสดินแดนเล็ก ๆ ที่นี้สักคืน แล้วคุณจะประทับใจของวิถีความเป็น ‘บ้านนอกคอกนา’